เราได้พูดถึงใบรายงานผลการสอบเทียบที่เราได้รับมาภายหลังส่งเครื่องมือวัดไปรับการสอบเทียบนั้น
นอกเหนือจากจะใช้เอกสารนั้นเพื่อยืนยันว่าเครื่องมือวัดนั้นๆได้รับการสอบเทียบแล้ว
รายละเอียดของใบรายงานผลการสอบเทียบ ยังนำมาพิจารณาใช้เป็นประโยชน์ได้ เช่น
ค่าความไม่แน่นอนของการวัด , ค่าแก้ , ค่าเลื่อน
(Drift ) และความเสถียร ( Stability ) ของเครื่อง
เพื่อที่จะได้พิจารณาว่าค่าต่างๆเหล่านี้อยู่ในเกณฑ์ที่เราจะยอมรับหรือไม่
มีโอกาสที่ค่าเหล่านี้จะหลุดออกนอกเกณฑ์การยอมรับหรือไม่
เพื่อที่จะได้กำหนดมาตรการในการเฝ้าระวัง กำหนดวิธีการใช้งาน
ตลอดจนการตรวจสอบระหว่างใช้งาน
ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหากเครื่องมือวัด
มีผลการวัดออกนอกเกณฑ์การยอมรับที่กำหนดด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น
ก่อนที่เราจะตัดสินใจส่งเครื่องมือวัดไปทำการสอบเทียบ
ที่ห้องปฏิบัติการสอบเทียบภายนอกนั้น
มีสิ่งที่เราควรจะต้องพิจารณาและคำนึงถึงก่อนส่งเครื่องมือวัดไปสอบเทียบทุกครั้ง
เพื่อที่ว่าจะได้ผลการสอบเทียบที่เป็นไปตามความต้องการของเรา
และเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย โดยมีข้อแนะนำดังนี้
1. กำหนดเกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือวัดว่ามีค่าเท่าใด
เช่น เครื่องมือวัดภายหลังสอบเทียบแล้ว
ควรมีค่าความไม่แน่นอนของการวัดอยู่ในเกณฑ์ใด เช่น + 0.5 C หรือ
+ 0.5 ?m เป็นต้น เพื่อที่ว่า
เมื่อนำเครื่องมือวัดไปใช้ควบคุมการผลิต
จะไม่มีความเสี่ยงต่อความเสียหายของผลิตภัณฑ์ หรือเมื่อนำเครื่องมือวัดไปใช้เป็น working
standard มีค่าความไม่แน่นอนของการวัดอยู่ในเกณฑ์ที่เราต้องการ
ทั้งนี้เพราะค่าความไม่แน่นอนจะสะสม (accumulate) ทำให้เครื่องมือวัดที่นำมาสอบเทียบกับ
working standardมีค่าความไม่แน่นอนของการวัดเพิ่มขึ้น
2. เราต้องการรายงานผลการสอบเทียบเป็นอย่างไร
เช่น เป็นจุดหรือเป็นช่วง (range) พร้อมด้วยรายละเอียดของค่าที่ได้จากการทำ
interpolation หรือไม่
เพื่อที่เมื่อได้รายงานผลกลับมาจะใช้ได้ตามต้องการโดยไม่มีปัญหา
3. หลังจากกำหนด
ค่าความไม่แน่นอนที่ยอมรับแล้ว
ให้ตรวจเช็ครายชื่อห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับการรับรองความสามารถว่าห้องปฏิบัติการใด
มี Scope และ Best Measurement Capability เป็นไปตามเกณฑ์ที่ต้องการบ้าง มีกี่แห่ง
เพื่อที่จะคัดเลือกว่าจะส่งไปที่ใดโดยพิจารณา ค่าบริการ ระยะเวลา และสถานที่
ที่เหมาะสม
ผู้เขียนหวังว่า
หากทุกท่านที่เกี่ยวข้องกับการส่งเครื่องมือวัดไปสอบเทียบ ได้พิจารณาประเด็นเหล่านี้ก่อนการส่งเครื่องมือวัดไปรับการสอบเทียบ
ก็จะได้รับผลประโยชน์คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายและระยะเวลาที่เสียไป
แหล่งที่มาของข้อมูล : สมท.สารปีที่ 9
ISSN 0859-5348 , คุณปรีชา ดิษเสถียร , น.3,
มกราคม – มีนาคม 2547
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
เกณฑ์การกำหนดความถี่ของการสอบเทียบ
หลายองค์กรมักจะประสบปัญหาอย่างหนึ่ง คือไม่ทราบว่าจะกำหนดความถี่ของการสอบเทียบ อย่างไรดีจึงจะถือว่าเหมาะสม โดยทั่วไปจึงมักจะกำหนดระยะเวลาการสอบเทียบของเครื่องมือวัดในครั้งแรกที่ 6 เดือน หรือ 12 เดือนต่อการสอบเทียบหนึ่งครั้ง สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณากำหนดความถี่ของการสอบเทียบอุปกรณ์นั้น โดยทั่วไปจะพิจารณาจากองค์ประกอบเหล่านี้
1. ประวัติการสอบเทียบของอุปกรณ์ หากประวัติการสอบเทียบย้อนหลังประมาณ 2 – 3 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าความถูกต้องยังคงอยู่ในย่าน หรือไม่มีแนวโน้มแสดงให้เห็นว่าเริ่มออกนอกย่านที่กำหนด เราสามารถที่จะยืดระยะเวลาการสอบเทียบออกไปได้ แต่ในทางกลับกันหากประวัติการสอบเทียบแสดงให้เห็นว่าผลการสอบเทียบออกนอกย่านที่กำหนด ระยะเวลาการสอบเทียบต้องหดลง แม้ว่าจะมีประวัติเพียงครั้งเดียวก็ตาม
2. ลักษณะการใช้งานในจุดวิกฤตหรือไม่ เครื่องมือวัดที่ถูกติดตั้งใช้งาน ณ จุดวิกฤตของกระบวนการผลิต ย่อมต้องมีความถี่ในการสอบเทียบมากกว่าเครื่องมือวัดที่ติดตั้ง ณ จุดใช้งานทั่วไป
3. การบำรุงรักษา เครื่องมือวัดที่ผู้ใช้งานมีการเก็บดูแลบำรุงรักษาอย่างดี คาบระยะเวลาการสอบเทียบก็อาจจะนานกว่าเครื่องมือวัดที่ผู้ใช้งานไม่เคยเหลียวแล
4. ความถี่ในการใช้งาน สำหรับเครื่องมือวัดที่มีความถี่ในการใช้งานบ่อย โอกาสที่จะทำให้เครื่องมือวัดนั้นออกนอกย่านที่กำหนดจะมีมากกว่าเครื่องมือวัดที่มีความถี่ในการใช้งานน้อยกว่า ดังนั้นความถี่ในการสอบเทียบของเครื่องมือวัดเหล่านี้ก็ย่อมจะต้องมีมากกว่าด้วยเช่นกัน
5. พิจารณาจากประเภทของอุปกรณ์ กล่าวคือ อุปกรณ์ที่เรียกว่า “ * Active Equipment “ จะมีความถี่ในการสอบเทียบมากกว่าอุปกรณ์ที่เรียกว่า “ ** Passive Equipment ”
* Active Equipment คือ เครื่องมือวัดที่ต้องมีไฟเลี้ยง เช่น เครื่องชั่ง , Digital Multimeter เป็นต้น
** Passive Equipment คือ เครื่องมือที่สามารถทำงานได้ด้วยตัวของมันเอง โดยไม่ต้องอาศัย
Bias supply หรือไฟเลี้ยง เช่น ตุ้มน้ำหนัก , Vernier Caliper เป็นต้น
แหล่งที่มาของข้อมูล
EAL – G12:1995 Traceability of Measuring and Test Equipment to National Standards
บุรินทร์ ไตรชินธนโชติ , เทคนิค &วิธีการในงานสอบเทียบเครื่องมือวัด , Edition 1 Nov. 2543
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)